
แนะนำ 7 ขนมไทยโบราณ พร้อมวิธีทำง่ายๆ
7ขนมไทยโบราณ เป็นขนมที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานหลายชั่วอายุคน ขนมไทยโบราณมีมากมายหลายชนิด แต่ละชนิดล้วนมีรสชาติอร่อยและเอกลักษณ์เฉพาะตัว ขนมไทยโบราณมักทำจากวัตถุดิบธรรมชาติ เช่น ข้าวเหนียว น้ำตาล มะพร้าว ผลไม้ ถั่ว เป็นต้น ขนมไทยโบราณมักมีรสชาติหวาน หอม อร่อย มักนิยมรับประทานหลัง อาหารไทย หรือเป็นของว่าง ขนมไทยอาจสืบเนื่องมาจากวัฒนธรรมการกินของคนไทยในสมัยโบราณ ซึ่งมักนิยมรับประทานข้าวเป็นอาหารหลัก ประกอบกับสภาพภูมิประเทศของประเทศไทยที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพรรณธัญญาหารต่างๆ ทำให้คนไทยมีวัตถุดิบในการทำขนมมากมาย
1.ขนมชั้น

ขนมชั้น เป็นขนมหวานไทยชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นชั้นแป้งบางๆ เรียงซ้อนกัน ราดด้วยกะทิหอมมัน ขนมชั้นเป็นขนมหวานที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว รสชาติหวาน หอม อร่อย นิยมรับประทานเป็นของว่างหรือของหวานตามเทศกาลต่างๆ
ขนมชั้นมีส่วนผสมหลักๆ ดังนี้
- แป้งมัน
- แป้งข้าวเจ้า
- แป้งท้าวยายม่อม
- น้ำตาลทราย
- กะทิ
วิธีการทำขนมชั้นมีดังนี้
1.ผสมแป้งมัน แป้งข้าวเจ้า และแป้งท้าวยายม่อมให้เข้ากัน
2.ใส่น้ำตาลทรายลงไป คนให้เข้ากัน
3.ใส่กะทิลงไป คนให้เข้ากัน กรองด้วยตะแกรงตาถี่
4.แบ่งแป้งออกเป็น 2 ส่วน ใส่สีผสมอาหารหรือน้ำใบเตยลงไป คนให้เข้ากัน
5.ตั้งหม้อน้ำให้เดือด นำถาดขนมชั้นวางบนหม้อน้ำ ปิดฝา
6.ตักแป้งสีขาวลงไปในถาด รอจนแป้งสุก ตักแป้งสีเขียวลงไป รอจนแป้งสุก ทำสลับกันจนครบจำนวนชั้นที่ต้องการ
7.ยกถาดขนมชั้นออกจากเตา พักไว้ให้เย็น
8.ราดหน้าด้วยกะทิ โรยด้วยใบเตยหอม
2.ขนมกล้วย

ขนมกล้วย เป็นขนมหวานไทยชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นก้อนกลมๆ คล้ายขนมหม้อแกง แต่มีส่วนผสมหลักเป็นกล้วยน้ำว้า แป้งข้าวเจ้า และกะทิ ขนมกล้วยมีรสชาติหวาน หอม อร่อย นิยมรับประทานเป็นของว่างหรือของหวานตามเทศกาลต่างๆ
ขนมกล้วยมีส่วนผสมหลักๆ ดังนี้
- กล้วยน้ำว้า
- แป้งข้าวเจ้า
- แป้งมัน
- กะทิ
- น้ำตาลทราย
- เกลือป่น
- มะพร้าวขูด
วิธีการทำขนมกล้วยมีดังนี้
1.บดกล้วยน้ำว้าให้ละเอียด ใส่ชามเตรียมไว้
2.ใส่แป้งข้าวเจ้า แป้งมัน เกลือป่น และกะทิลงไป
3.นวดส่วนผสมทั้งหมดด้วยมือจนเข้ากันดี
4.ตักส่วนผสมในถ้วยใบตองหรือถ้วยตะไล โรยหน้าด้วยมะพร้าวขูด
5.นึ่งในซึ้งบนน้ำเดือด 30 นาที เป็นอันเสร็จ
3.ขนมผิง

ขนมผิง เป็นขนมหวานไทยชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นแผ่นแป้งแบนคล้ายไข่แมงมุม มีสีเหลืองนวล รสชาติหวานมัน นิยมรับประทานเป็นของว่างหรือของหวานตามเทศกาลต่างๆ
ขนมผิงมีส่วนผสมหลักๆ ดังนี้
- แป้งมัน
- กะทิ
- น้ำตาลทราย
- ไข่แดง
วิธีการทำขนมผิงมีดังนี้
1.ผสมแป้งมัน กะทิ และน้ำตาลทรายให้เข้ากัน กรองด้วยตะแกรงตาถี่
2.ตีไข่แดงจนแตก ใส่ลงไปในส่วนผสมแป้ง คนให้เข้ากัน
3.ตั้งกระทะบนไฟอ่อน ใส่น้ำมันหรือเนยลงไปจนละลาย
4.ตักแป้งขนมผิงใส่ลงบนกระทะ เกลี่ยให้แบน
5.ทอดขนมผิงจนสุกเหลืองทั้งสองด้าน พักไว้ให้เย็น
4.ขนมต้ม

ขนมต้ม เป็นขนมหวานไทยชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นก้อนกลมๆ ใส่ไส้มะพร้าวขูดเคี่ยวกับน้ำตาลจนเหนียว นำไปต้มให้สุก แล้วคลุกกับมะพร้าวขูด ขนมต้มมีรสชาติหวาน หอม อร่อย นิยมรับประทานเป็นของว่างหรือของหวานตามเทศกาลต่างๆ
ขนมต้มมีส่วนผสมหลักๆ ดังนี้
- แป้งข้าวเหนียว
- ไส้มะพร้าว
- มะพร้าวขูด
- น้ำใบเตย
วิธีการทำขนมต้มมีดังนี้
1.ทำไส้ขนมต้มโดยใส่มะพร้าวขูด น้ำตาลทราย เกลือป่น และน้ำมะพร้าวลงไปในกระทะ ผัดจนแห้ง ยกลงจากเตา พักไว้
2.ทำแป้งขนมต้มโดยผสมแป้งข้าวเหนียว น้ำใบเตย และกะทิให้เข้ากัน นวดจนแป้งเนียน
3.ปั้นไส้ขนมต้มเป็นก้อนกลมๆ
4.ปั้นแป้งเป็นก้อนกลมๆ นำไส้ขนมต้มวางตรงกลาง แล้วหุ้มแป้งให้มิด
5.ต้มน้ำในหม้อให้เดือด นำขนมต้มลงไปต้มจนสุก ยกขึ้นจากเตา
6.คลุกขนมต้มกับมะพร้าวขูด
5.ขนมตาล

ขนมตาล เป็นขนมหวานไทยชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นก้อนกลมๆ นุ่มฟู มีกลิ่นตาลหอมหวาน นิยมรับประทานเป็นของว่างหรือของหวานตามเทศกาลต่างๆ
ขนมตาลมีส่วนผสมหลักๆ ดังนี้
- เนื้อตาล
- แป้งข้าวเจ้า
- กะทิ
- น้ำตาลทราย
- ผงฟู
วิธีการทำขนมตาลมีดังนี้
1.ผสมเนื้อตาล กะทิ และน้ำตาลทรายให้เข้ากันจนน้ำตาลละลาย
2.ใส่แป้งข้าวเจ้าและผงฟูลงไป คนให้เข้ากัน
3.พักแป้งไว้ 15 นาที เพื่อให้แป้งเซ็ตตัว
4.ใส่แป้งลงในกระทงใบตอง โรยหน้าด้วยมะพร้าวขูด
5.นึ่งในซึ้งบนน้ำเดือด 30-45 นาที เป็นอันเสร็จ
6.ขนมหม้อแกง

ขนมหม้อแกง เป็นขนมหวานไทยชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นก้อนกลมๆ ใส่ไส้มะพร้าวและน้ำตาลทราย นำไปนึ่งให้สุก แล้วโรยหน้าด้วยหอมเจียว ขนมหม้อแกงมีรสชาติหวาน หอม อร่อย นิยมรับประทานเป็นของว่างหรือของหวานตามเทศกาลต่างๆ
ขนมหม้อแกงมีส่วนผสมหลักๆ ดังนี้
- แป้งข้าวเหนียว
- ไส้มะพร้าว
- หอมเจียว
- น้ำตาลทราย
- กะทิ
วิธีการทำขนมหม้อแกงมีดังนี้
1.ทำไส้ขนมหม้อแกงโดยผสมมะพร้าวขูด น้ำตาลทราย และเกลือป่นให้เข้ากัน นำไปนึ่งในถ้วยใบตองหรือถ้วยตะไลจนสุก
2.ทำแป้งขนมหม้อแกงโดยผสมแป้งข้าวเหนียว กะทิ และน้ำตาลทรายให้เข้ากัน นวดจนแป้งเนียน
3.ปั้นไส้ขนมหม้อแกงเป็นก้อนกลมๆ
4.ปั้นแป้งเป็นก้อนกลมๆ นำไส้ขนมหม้อแกงวางตรงกลาง แล้วหุ้มแป้งให้มิด
5.นึ่งขนมหม้อแกงในซึ้งบนน้ำเดือด 30 นาที เป็นอันเสร็จ
6.โรยหน้าขนมหม้อแกงด้วยหอมเจียว
7.ขนมถ้วย

ขนมถ้วย เป็นขนมไทยชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นขนมหน้ากะทิอยู่บนไส้แป้งหวาน นิยมรับประทานเป็นของว่างหรือของหวานตามเทศกาลต่างๆ
ขนมถ้วยมีส่วนผสมหลักๆ ดังนี้
- แป้งข้าวเจ้า
- แป้งมัน
- น้ำตาลมะพร้าว
- หัวกะทิ
- น้ำใบเตย
วิธีการทำขนมถ้วยมีดังนี้
1.ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน และน้ำตาลมะพร้าวให้เข้ากัน กรองด้วยตะแกรงตาถี่
2.ใส่หัวกะทิและน้ำใบเตยลงไป คนให้เข้ากัน
3.แบ่งแป้งออกเป็น 2 ส่วน ใส่สีผสมอาหารหรือน้ำใบเตยลงไป คนให้เข้ากัน
4.ตั้งหม้อน้ำให้เดือด นำถ้วยตะไลวางบนหม้อน้ำ ปิดฝา
5.ตักแป้งสีขาวลงไปในถ้วยตะไล รอจนแป้งสุก ตักแป้งสีเขียวลงไป รอจนแป้งสุก ทำสลับกันจนครบจำนวนชั้นที่ต้องการ
6.ยกถ้วยขนมถ้วยออกจากเตา พักไว้ให้เย็น
7.ราดหน้าด้วยกะทิ โรยด้วยใบเตยหอม
ขนมไทยโบราณเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของไทยที่ควรอนุรักษ์ไว้ ขนมไทยโบราณเป็นเอกลักษณ์ของไทยที่ไม่เหมือนใคร ขนมไทยโบราณเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้วัฒนธรรมไทยมีความโดดเด่นและน่าหลงใหล
อ่านเพิ่มเติม : เมนูเด็ดภาคกลาง