
เมนูแกงอีสาน พร้อมสูตร เมนูแกงอีสาน อาหารไทย แกงอีสานเป็นอาหารประเภทแกงที่มีรสชาติเข้มข้น เผ็ดร้อน มักใช้น้ำปลาร้าเป็นส่วนประกอบหลัก แกงอีสานมีหลากหลายเมนู ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่นำมาปรุง เช่น เนื้อสัตว์ ผัก และเครื่องแกง
ตัวอย่างเมนูแกงอีสาน
แกงหน่อไม้

ภาพจาก : https://howtocookhub.com/
แกงหน่อไม้ เป็น เมนูแกงอีสานหาทานง่าย มักใช้หน่อไม้สดหรือหน่อไม้ดอง ใส่เนื้อสัตว์ เช่น เนื้อหมู เนื้อไก่ หรือปลา ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า น้ำปลา และเกลือ
แกงหน่อไม้เป็นอาหารพื้นบ้านของภาคอีสานและภาคเหนือ มีลักษณะเป็นแกงน้ำใสที่มีรสชาติเข้มข้น เผ็ดร้อน มักใช้น้ำปลาร้าเป็นส่วนประกอบหลัก แกงหน่อไม้มีหลากหลายเมนู ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่นำมาปรุง เช่น เนื้อสัตว์ ผัก และเครื่องแกง ตัวอย่าง เมนูแกงหน่อไม้ มีดังนี้
- แกงหน่อไม้ใส่เนื้อสัตว์ เป็นเมนูแกงหน่อไม้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มักใช้เนื้อสัตว์ เช่น เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อวัว หรือปลา ใส่เครื่องแกง และหน่อไม้สดหรือหน่อไม้ดอง ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า น้ำปลา และเกลือ
- แกงหน่อไม้ใส่เห็ด เป็นเมนูแกงหน่อไม้ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ทานเนื้อสัตว์ มักใช้เห็ดต่างๆ เช่น เห็ดฟาง เห็ดนางฟ้า เห็ดหอม ใส่เครื่องแกง และหน่อไม้สดหรือหน่อไม้ดอง ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า น้ำปลา และเกลือ
- แกงหน่อไม้ใส่ไข่มดแดง เป็นเมนูแกงหน่อไม้ที่หารับประทานได้ในฤดูฝน มักใช้ไข่มดแดง ใส่เครื่องแกง และหน่อไม้สดหรือหน่อไม้ดอง ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า น้ำปลา และเกลือ
เคล็ดลับในการทำแกงหน่อไม้ให้อร่อย มีดังนี้
- เลือกใช้หน่อไม้สดหรือหน่อไม้ดองคุณภาพดี
- ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้าให้เข้มข้นตามชอบ
- ใส่ผักให้หลากหลาย
- ต้มแกงให้สุกได้ที่
ส่วนผสมและวิธีทำแกงหน่อไม้ใส่เนื้อหมู
ส่วนผสม
- หน่อไม้สดหรือหน่อไม้ดอง 500 กรัม
- เนื้อหมูสันนอก 300 กรัม
- ตะไคร้ซอย 2 ต้น
- หอมแดง 5-6 หัว
- พริกจินดาแห้ง 4-5 เม็ด
- พริกสด 3-4 เม็ด
- ใบแมงลัก 2-3 ต้น
- ชะอม 100 กรัม
- น้ำปลาร้า 1 ทับพี
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- ผงปรุงรส 1 ช้อนชา
- ผงชูรส 1-2 ช้อนชา
วิธีทำ
- ล้างหน่อไม้ให้สะอาด แล้วหั่นเป็นท่อนตามชอบ
- ล้างเนื้อหมูให้สะอาด แล้วหั่นเป็นชิ้นพอคำ
- โขลกพริกแห้ง พริกสด หอมแดง และตะไคร้เข้าด้วยกันจนละเอียด
- ตั้งหม้อใส่น้ำเปล่า ใส่เนื้อหมูลงไป ต้มจนน้ำเดือด
- ใส่เครื่องแกงลงไป ต้มจนน้ำเดือดอีกครั้ง
- ใส่หน่อไม้ลงไป ต้มจนหน่อไม้สุก
- ใส่ใบแมงลัก ชะอม น้ำปลาร้า น้ำปลา ผงปรุงรส และผงชูรสลงไป ชิมรสตามชอบ
- ต้มต่อจนผักสุกได้ที่
- ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ
แกงอ่อม

ภาพจาก : https://www.wongnai.com/
แกงอ่อม เป็น อาหารพื้นบ้านของภาคอีสาน มีลักษณะเป็นแกงน้ำใสที่มีรสชาติเข้มข้น เผ็ดร้อน มักใช้น้ำปลาร้าเป็นส่วนประกอบหลัก แกงอ่อมมีหลากหลายเมนู ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่นำมาปรุง เช่น เนื้อสัตว์ ผัก และเครื่องแกง ตัวอย่าง เมนูแกงอ่อม มีดังนี้
- แกงอ่อมหมู เป็นเมนูแกงอ่อมที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มักใช้เนื้อหมูสันนอกหรือเนื้อหมูสามชั้นหั่นชิ้นพอคำ ใส่เครื่องแกง และผักต่างๆ เช่น บวบ มะเขือเปราะ ใบแมงลัก ใบชะพลู ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า น้ำปลา และเกลือ
- แกงอ่อมไก่ เป็นเมนูแกงอ่อมที่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ทานเนื้อหมู มักใช้เนื้อไก่หั่นชิ้นพอคำ ใส่เครื่องแกง และผักต่างๆ เช่น บวบ มะเขือเปราะ ใบแมงลัก ใบชะพลู ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า น้ำปลา และเกลือ
- แกงอ่อมปลา เป็นเมนูแกงอ่อมที่เหมาะสำหรับผู้ที่ทานมังสวิรัติ มักใช้ปลาสดหั่นชิ้นพอคำ ใส่เครื่องแกง และผักต่างๆ เช่น บวบ มะเขือเปราะ ใบแมงลัก ใบชะพลู ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า น้ำปลา และเกลือ
ส่วนผสมและวิธีทำแกงอ่อมหมู
ส่วนผสม
- เนื้อหมูสันนอก 500 กรัม
- ตะไคร้ซอย 3 ต้น
- หอมแดง 5-6 หัว
- พริกจินดาแห้ง 4-5 เม็ด
- พริกสด 3-4 เม็ด
- มะเขือ 6-7 ลูก
- ผักชีลาว 2 กำมือ
- ใบแมงลัก 2-3 ต้น
- ตะไคร้หั่นแฉลบ 2 ต้น
- ข้าวคั่ว 1-2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลาร้า 1 ทับพี
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- ผงปรุงรส 1 ช้อนชา
- ผงชูรส 1-2 ช้อนชา
วิธีทำ
- โขลกพริกแห้ง พริกสด หอมแดง และตะไคร้เข้าด้วยกันจนละเอียด
- ใส่เนื้อหมูลงในหม้อ เติมน้ำเปล่าให้ท่วมเนื้อหมู
- ใส่เครื่องแกงลงไป ต้มจนน้ำเดือด
- ใส่มะเขือลงไป ต้มจนมะเขือสุก
- ใส่ผักชีลาว ใบแมงลัก ข้าวคั่ว น้ำปลาร้า น้ำปลา ผงปรุงรส และผงชูรสลงไป ชิมรสตามชอบ
- ต้มต่อจนผักสุกได้ที่
- ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ
แกงเปรอะ

ภาพจาก : https://www.sarakaset.com/
แกงเปรอะเป็นอาหารพื้นบ้านของภาคอีสาน มีลักษณะเป็นแกงน้ำใสที่มีรสชาติเข้มข้น เผ็ดร้อน มักใช้น้ำปลาร้าเป็นส่วนประกอบหลัก แกงเปรอะมีหลากหลายเมนู ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่นำมาปรุง เช่น เนื้อสัตว์ ผัก และเครื่องแกง ตัวอย่าง เมนูแกงเปรอะ มีดังนี้
- แกงเปรอะหน่อไม้ เป็นเมนูแกงเปรอะที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มักใช้หน่อไม้สดหรือหน่อไม้ดอง ใส่เครื่องแกง และผักอื่นๆ เช่น เห็ดฟาง ชะอม ใบแมงลัก ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า น้ำปลา และเกลือ
- แกงเปรอะเห็ดเผาะ เป็นเมนูแกงเปรอะที่หารับประทานได้ในฤดูฝน มักใช้เห็ดเผาะ ใส่เครื่องแกง และผักอื่นๆ เช่น เห็ดฟาง ชะอม ใบแมงลัก ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า น้ำปลา และเกลือ
- แกงเปรอะไข่มดแดง เป็นเมนูแกงเปรอะที่หารับประทานได้ในฤดูฝน มักใช้ไข่มดแดง ใส่เครื่องแกง และผักอื่นๆ เช่น เห็ดฟาง ชะอม ใบแมงลัก ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า น้ำปลา และเกลือ
เคล็ดลับในการทำแกงเปรอะให้อร่อย มีดังนี้
- เลือกใช้วัตถุดิบที่สดใหม่
- ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้าให้เข้มข้นตามชอบ
- ใส่ผักให้หลากหลาย
- ต้มแกงให้สุกได้ที่
ส่วนผสมและวิธีทำแกงเปรอะหน่อไม้
ส่วนผสม
- หน่อไม้สดหรือหน่อไม้ดอง 500 กรัม
- เห็ดฟาง 100 กรัม
- ชะอม 100 กรัม
- ใบแมงลัก 2-3 ต้น
- ตะไคร้ซอย 2 ต้น
- หอมแดง 5-6 หัว
- พริกจินดาแห้ง 4-5 เม็ด
- ข้าวเบือ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลาร้า 1 ทับพี
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- ผงปรุงรส 1 ช้อนชา
- ผงชูรส 1-2 ช้อนชา
วิธีทำ
- ล้างหน่อไม้ให้สะอาด แล้วหั่นเป็นท่อนตามชอบ
- ล้างเห็ดฟางให้สะอาด แล้วหั่นเป็นชิ้นตามชอบ
- ล้างชะอมและใบแมงลักให้สะอาด
- โขลกพริกแห้ง พริกสด หอมแดง และตะไคร้เข้าด้วยกันจนละเอียด
- ตั้งหม้อใส่น้ำเปล่า ใส่ข้าวเบือลงไป คนให้เข้ากันจนละลาย
- ใส่เครื่องแกงลงไป ต้มจนน้ำเดือด
- ใส่หน่อไม้ เห็ดฟาง ชะอม และใบแมงลักลงไป ต้มจนผักสุก
- ใส่น้ำปลาร้า น้ำปลา ผงปรุงรส และผงชูรสลงไป ชิมรสตามชอบ
- ต้มต่อจนผักสุกได้ที่
- ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ
แกงเห็ดเผาะ

ภาพจาก : https://www.pinterest.com/
แกงเห็ดเผาะเป็นอาหารพื้นบ้านของภาคอีสานและภาคเหนือ มีลักษณะเป็นแกงน้ำใสที่มีรสชาติเข้มข้น เผ็ดร้อน มักใช้น้ำปลาร้าเป็นส่วนประกอบหลัก เห็ดเผาะเป็นเห็ดป่าที่หารับประทานได้ในฤดูฝน มีลักษณะเป็นเห็ดที่มีรูปร่างคล้ายกับดอกเห็ดทั่วไป แต่มีเนื้อสัมผัสที่กรอบและเหนียว นิยมนำมาทำแกง ทอด และผัด
ส่วนผสมและวิธีทำแกงเห็ดเผาะ
ส่วนผสม
- เห็ดเผาะ 500 กรัม
- ตะไคร้ซอย 2 ต้น
- หอมแดง 5-6 หัว
- พริกจินดาแห้ง 4-5 เม็ด
- น้ำปลาร้า 1 ทับพี
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- ผงปรุงรส 1 ช้อนชา
- ผงชูรส 1-2 ช้อนชา
วิธีทำ
- ล้างเห็ดเผาะให้สะอาด แล้วหั่นเป็นชิ้นตามชอบ
- โขลกพริกแห้ง พริกสด หอมแดง และตะไคร้เข้าด้วยกันจนละเอียด
- ตั้งหม้อใส่น้ำเปล่า ใส่เครื่องแกงลงไป ต้มจนน้ำเดือด
- ใส่เห็ดเผาะลงไป ต้มจนเห็ดสุก
- ใส่น้ำปลาร้า น้ำปลา ผงปรุงรส และผงชูรสลงไป ชิมรสตามชอบ
- ต้มต่อจนเห็ดสุกได้ที่
- ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ
แกงไข่มดแดง

ภาพจาก : https://food.mthai.com/
แกงไข่มดแดงเป็นอาหารพื้นบ้านของภาคอีสานและภาคเหนือ มีลักษณะเป็นแกงน้ำใสที่มีรสชาติเข้มข้น เผ็ดร้อน มักใช้น้ำปลาร้าเป็นส่วนประกอบหลัก ไข่มดแดงเป็นอาหารป่าที่หารับประทานได้ในฤดูฝน มีลักษณะเป็นไข่ของมดแดงที่มีลักษณะคล้ายไข่ปลา มีรสชาติมันและหวาน นิยมนำมาทำแกง ทอด และผัด
ส่วนผสมและวิธีทำแกงไข่มดแดง
ส่วนผสม
- ไข่มดแดง 500 กรัม
- ตะไคร้ซอย 2 ต้น
- หอมแดง 5-6 หัว
- พริกจินดาแห้ง 4-5 เม็ด
- น้ำปลาร้า 1 ทับพี
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- ผงปรุงรส 1 ช้อนชา
- ผงชูรส 1-2 ช้อนชา
วิธีทำ
- ล้างไข่มดแดงให้สะอาด แล้วหั่นเป็นชิ้นตามชอบ
- โขลกพริกแห้ง พริกสด หอมแดง และตะไคร้เข้าด้วยกันจนละเอียด
- ตั้งหม้อใส่น้ำเปล่า ใส่เครื่องแกงลงไป ต้มจนน้ำเดือด
- ใส่ไข่มดแดงลงไป ต้มจนไข่มดแดงสุก
- ใส่น้ำปลาร้า น้ำปลา ผงปรุงรส และผงชูรสลงไป ชิมรสตามชอบ
- ต้มต่อจนไข่มดแดงสุกได้ที่
- ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ